ทุ่มเท Ehlers-Danlos syndrome: อาการ, สาเหตุและการรักษา
Ehlers-Danlos syndrome (EDS) เป็นโรคกระดูกและเนื้อเยื่อที่เกิดขึ้นหลังจากเกิดความผิดปกติในโครงสร้างของคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ประกอบด้วยเส้นใยและอยู่ในเนื้อเยื่อทั้งร่างกาย การผิดปกตินี้จะทำให้เกิดอาการร้าวแรงต่อเนื่องเช่น ต่อมไขมันแห้ง ข้อเข่าโต โรงมือตก และอาการแผลระหว่างทางที่รั่วไหล
ปัจจัยเสี่ยงสำหรับ Ehlers-Danlos syndrome
มีปัจจัยเสี่ยงที่จะเป็นโรค Ehlers-Danlos syndrome ได้แก่:
1. พันธุกรรม
การถ่ายทอดพันธุกรรมก็เป็นสาเหตุหนึ่งของโรคนี้ โดยมักจะเกิดขึ้นในคนที่มีพ่อแม่เป็นโรค EDS ด้วย โดยพวกเขาจะมีโอกาสได้รับการสืบพันธุ์โรคนี้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์
2. อายุ
ผู้สูงอายุมักจะมีความเสี่ยงสูงกว่าเด็กหรือคนที่อายุต่ำกว่า
3. เพศ
เพศหญิงมักจะมีโอกาสเป็นโรคมากกว่าเพศชาย
4. การทำงานที่ต้องใช้กล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็นดูโดน
อาการของ Ehlers-Danlos syndrome
โรค Ehlers-Danlos syndrome มักจะมีอาการสะเก็ดเนื้อที่เกิดขึ้นทุกวันๆ และในบางรายจะเกิดอาการร้าวแรงขึ้นมาเมื่อเล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้กล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็นดูโดน อาการที่พบได้แก่:
1. ต่อมไขมันแห้ง
ต่อมไขมันแห้งเกิดขึ้นเมื่อไขมันลอยอยู่ภายนอกของชั้นผิวหนัง ด้วยความที่กระดูกไม่ได้ทำงานตามปกติ ดังนั้นจึงทำให้การสะสมไขมันลำบากขึ้น
2. ข้อเข่าโต
โรค EDS มักจะทำให้ข้อเข่าโตมากกว่าปกติ แต่ปัจจุบันมีการสังเกตเห็นว่าหลายๆ คนก็มีอาการข้อเข่าโตโดยไม่ใช่เป็นโรค EDS ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจากผิดปกติภายในผิวเมื่อร่างกายของเด็กยังไม่เสร็จสมบูรณ์
3. โรงมือตก
โรค EDS ทำให้โรงมือตกทั้งสองข้างมีปัญหา เนื่องจากการทำงานของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นดูโดนไม่สามารถทำงานได้อย่างปกติ
4. อาการแผลระหว่างทางที่รั่วไหล
โรค EDS ทำให้ผิวหนังบาดเจ็บได้ง่ายขึ้น และเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นโรคบาดแผลกันหน่อย การแพ้ง่ายโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจนจะเป็นอาการที่พบได้เช่นกัน
การวินิจฉัยรักษาและการป้องกัน Ehlers-Danlos syndrome
การวินิจฉัยโรค EDS สามารถทำได้โดยการตรวจ DNA หรือ DNA Morphology ซึ่งจะช่วยแยกแยะโรคบางชนิดที่ใกล้เคียงกัน หากพบว่าเป็นโรค EDS แพทย์จะประเมินอาการและจะคำนวณระดับความรุนแรงของโรค
การรักษาโรค Ehlers-Danlos syndrome
การรักษาโรค EDS จะขึ้นอยู่กับความรุนแรงและอาการของผู้ป่วย หากเป็นระดับน้อย แพทย์อาจแนะนำให้คุณเหลือง ดำ เพื่อเสริมสร้างความเหม็นของเนื้อเยื่อและรอยต่อในกรุวิธีการผ่าตัด
FAQ
Q1: Ehlers-Danlos syndrome เป็นโรคที่ติดต่อกันได้อย่างไร?
A1: โรค Ehlers-Danlos syndrome ไม่เกิดจากการติดต่อกัน แต่เป็นโรคที่ถ่ายทอดพันธุกรรม
Q2: โรค Ehlers-Danlos syndrome มีทำไมถึงยากต่อการรักษา?
A2: โรคนี้ยากต่อการรักษาเพราะมีความซับซ้อนและไม่มีการรักษาที่แน่นอนเพราะพฤติกรรมการพึ่งตนเองของผู้ป่วย
Q3: โรค Ehlers-Danlos syndrome สามารถป้องกันได้ไหม?
A3: มีปัจจัยเสี่ยงที่จะเป็นโรค EDS และไม่สามารถป้องกันได้
Q4: ผู้สูงอายุมีโอกาสเป็นโรค Ehlers-Danlos syndrome ไหม?
A4: ผู้สูงอายุมีโอกาสเป็นได้เหมือนผู้อื่นอย่างผู้ดีมีในทุกระดับอายุ
Q5: การรักษาโรค EDS มีอะไรบ้าง?
A5: การรักษาโรค EDS มักจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงและอาการของผู้ป่วย หากเป็นระดับน้อย แพทย์อาจแนะนำให้คุณเหลือง ดำ เพื่อเสริมสร้างความเหม็นของเนื้อเยื่อและรอยต่อในกรุวิธีการผ่าตัด
Q6: เพศไหนมีโอกาสมากกว่าที่จะติดเชื้อ Ehlers-Danlos syndrome?
A6: เป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย
Q7: อาการของ Ehlers-Danlos syndrome มีแก่อะไร?
A7: อาการของ Ehlers-Danlos syndrome มีแต่ผิวหนังบาดเจ็บได้ง่ายขึ้น ต่อมไขมันแห้ง ข้อเข่าโต โรงมือตก และอาการแผลระหว่างทางที่รั่วไหล
สรุป
Ehlers-Danlos syndrome (EDS) เป็นโรคกระดูกและเนื้อเยื่อที่เกิดขึ้นหลังจากเกิดความผิดปกติในโครงสร้างของคอลลาเจน การวินิจฉัยโรค EDS สามารถทำได้โดยการตรวจ DNA หรือ DNA Morphology โดยการรักษาโรค EDS จะขึ้นอยู่กับความรุนแรงและอาการของผู้ป่วย หากเป็นระดับน้อย แพทย์อาจแนะนำให้คุณเหลือง ดำ เพื่อเสริมสร้างความเหม็นของเนื้อเยื่อและรอยต่อในกรุวิธีการผ่าตัด