จุดยืนของศาสนาในการสร้างสังคม
ความเข้าใจเกี่ยวกับศาสนา
ศาสนาเป็นส่วนหนึ่งของสังคมมนุษย์ตั้งแต่ย้อนไปลึกๆ ซึ่งได้มีการพบหลักฐานในรูปลักษณ์ของปู่มงคลเชื่อว่าได้ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ก่อนพุทธศตวรรษที่ 6 B.C. โดยศาสนาก็มีความหมายเป็นการเชื่อถือที่มีกฎ เกณฑ์ ศีลธรรม และสิ่งทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการให้ความหมายแก่ชีวิตของมนุษย์ แต่ก็มีคนที่ไม่เข้าใจว่าศาสนานั้นมีความสำคัญอย่างไรกับการสร้างสังคมของมนุษย์ ในบทความนี้เราจะเห็นได้ว่าศาสนามีอิทธิพลในการสร้างและพัฒนาสังคมของมนุษย์อย่างมากมาย
รากฐานของศาสนา
ศาสนามีรากฐานอยู่ซึ่งความเชื่อที่มาจากคนเดียวกันที่มีความสัมพันธ์กัน ซึ่งส่วนมากจะพูดถึงเทพเจ้า แต่ก็มีแนวคิดทางศิลปะ วรรณคดี และการทำปฏิบัติศาสนาในแต่ละศาสนาที่แตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น ศาสนาพุทธมุนีเป็นศาสนาที่เน้นความสงบสุขและความทุ่มเทในการฝึกปฏิบัติศาสนา ซึ่งในสังคมอารยธรรมก็ได้มีการสร้างวิถีชีวิตที่เน้นความสงบและหลวงตัวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการฝึกฝนความสงบสุขด้วย ส่วนศาสนาคริสต์เป็นศาสนาที่เน้นความเชื่อในเจ้าพระยาวีรชนและความรัก ซึ่งมีการสร้างเครื่องหมายของศาสนาใช้ในการบูรณาการในสังคม และพฤติกรรมพิเศษที่เกี่ยวข้องกับวันสำคัญต่างๆในศาสนา
การสร้างสังคมด้วยศาสนา
การสร้างสังคมด้วยศาสนามีความหมายอย่างมากมายแตกต่างกันไปซึ่งไม่ควรที่จะละเลยไปได้เลย ในส่วนของศาสนาพุทธมุนีจะมีการสร้างสังคมที่ประณีตและสงบสุข เนื่องจากว่าศาสนาพุทธมุนีมีศีลธรรมที่ฉันท์ฉายและมีกฎเกณฑ์ที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม ซึ่งจะช่วยให้มนุษย์เข้าใจสังคมผ่านจิตวิญญาณและการตรีตรองตนเองในการทำตัวต่อสังคมได้อย่างถูกต้อง ส่วนใหญ่จะมีการปฏิบัติวิถีชีวิตตามที่มีอยู่ในประวัติศาสตร์และอิทธิพลจากได้รับของสมเด็จพระนางเจ้าซึ่งถือเป็นจุดช่วยเหลือในการสร้างสังคม
ในทางตรงข้าม ศาสนาอิสลามจะมีการสร้างสังคมที่แตกต่างจากศาสนาอื่นๆอย่างมากมายโดยเฉพาะเรื่องของการศึกษาความเป็นอัศวินในเกียรตินาร์ ซึ่งมีการจำกัดบางอย่างในการเข้าถึงของสตรีส่วนใหญ่ การศึกษาทางศิลปะและวรรณคดีที่เข้ากับการเลือกเรียนรู้มาจากอิสลาม มีบทบาทสำคัญในการสร้างสังคมด้วยการเชื่อถือที่มีความต่อเนื่องและการพิชิตยุคใหม่
การเสริมสร้างคุณธรรมจากการเรียนรู้ศาสนา
การศึกษาศาสนาจะช่วยในการเสริมสร้างความมั่งคั่งและคุณธรรมอย่างมากมาย โดยการเรียนรู้ว่าบางแนวคิดและการกระทำที่ทำปัจจุบันสามารถเข้ากันได้กับข้อบังคับหมู่มนุษย์ตามหลักฐานของศาสนา เช่น ในศาสนาคริสต์มีหลักฐานกฎหมายที่เชื่อมโยงกับพระคริสต์เจ้าแน่นอน ซึ่งหมายความว่าการเคารพผู้ใหญ่บังคับบัญชาและเสียสละเพื่อผู้อื่นจะสามารถตอบแทนได้ในระดับทั้งส่วนบุคคลและสังคม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้คนทั้งแต่อายุใดๆ
สรุป
ศาสนามีอิทธิพลในการสร้างและพัฒนาสังคมของมนุษย์อย่างมากมาย การศึกษาศาสนาจะช่วยให้เราเข้าใจข้อบังคับของคนอื่นๆและเสียสละเพื่อผู้อื่น เช่น การออกแบบกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับวันสำคัญของศาสนาเพื่อสร้างความต่อเนื่องและการเชื่อมโยงในสังคมใหญ่ ในที่สุดศาสนาก็เป็นหนึ่งในกลไกที่ช่วยให้อารมณ์และจิตใจของผู้คนเชื่อมโยงต่อกันในสังคมสูงขึ้น